Sculptra ตัวสร้างคุณภาพผิวที่เป็นที่พูดถึงมากที่สุด

Sculptra ที่สุดของงานผิวที่เป็นที่กล่าวขานกันมาตลอดถึงความดีงามหลังการรักษาว่าได้งานผิวที่มีคุณภาพ จนไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจึงได้รับความนิยมไปทั่วโลกขนาดนี้ เพราะเราทุกคนเชื่อว่าการจะมีผิวที่ดีได้ต้องเริ่มมาจากภายในซึ่งนั่นหมายถึงชั้นใต้ผิวหนังนั่นเอง เมื่อมีอายุที่มากขึ้นก็ทำให้ผิวหนังไม่สามารถคงสภาพที่ยังดูสวยสดใสได้เหมือนตอนยังอ่อนเยาว์จึงต้องเริ่มจากการบำรุงผิวจากใต้ชั้นผิว เพื่อให้สร้างความอ่อนเยาว์จากภายในให้ส่งผลออกมาที่ผิวภายนอกนั่นเอง

Sculptra เป็นหนึ่งโปรแกรมที่ช่วยสร้างคอลลาเจนใต้ผิวที่ถูกกล่าวขานอย่างแพร่หลายมากๆเนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ดี ดูมีความเป็นธรรมชาติ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์กว่าวัยได้
messageImage_1726134066434
 

Sculptra คืออะไร?

Sculptra Collagen Biostimulator หรือสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวที่เป็นตัวแรกของโลกได้รับความแพร่หลายไปทั่วโลกมาอย่างยาวนานตั้งแต่ 1999 Sculptra ถูกใช้อย่างเป็นวงกว้างมาแล้วกว่า 20 ปีจากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ทั้งยังเป็น Collagen Biostimulator ตัวเดียวที่ได้รับรองมาตรฐานจาก US FDA ประเทศสหรัฐอเมริกาและ ได้รับ อย.ไทยในปี 2023

Sculptra Collagen Biostimulator คือสาร Poly-L-Lactic (PLLA) ที่ทำให้มีขนาดที่เล็กที่สุด เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการนำมาฉีดเพื่อเพิ่มการกระตุ้นคอลลาเจนให้กับบริเวณใต้ผิวหนัง ซึ่งสาร Poly-L-Lactic (PLLA) เป็นสารชนิดเดียวกับเส้นไหมที่แพทย์ใช้ทำการเย็บแผลให้กับคนไข้ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการตกค้างหรือส่งผลให้เกิดอันตรายหลังจากการทำ โดยสาร Poly-L-Lactic (PLLA) จะเข้าไปทำการกระตุ้นคอลลาเจนให้กับบริเวณใต้ผิวหนังที่คอลลาเจนเริ่มมีการเสื่อมสลายไปตามวัย สาร Poly-L-Lactic (PLLA) Collagen Biostimulator หลังจากฉีดไปแล้วจะสามารถย่อยสลายได้เป็น H2O, Co2 และ Lactic acid จึงสามารถเข้ากันกับร่างกายของคนเราได้เป็นอย่างดีและยังย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ทั้งนี้ Sculptra ยังมีงานวิจัยรองรับในการรักษามากกว่า 50 งานวิจัย รวมถึงได้ทำกลุ่มตัวอย่างในการรักษา และทดลองมากกว่า 1,000 ราย จึงถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีผู้รับรองและการันตีเรื่องประสิทธิภาพความพึงพอใจรวมทั้งความปลอดภัยในการรักษา

Sculptra เป็นโปรแกรมฉีดที่จัดอยู่ในกลุ่ม Collagen Biostimulator ที่ใช้ในการฉีดให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนของตัวเองเพื่อทดแทนที่คอลลาเจนเก่าใต้ผิวหนังที่สูญเสียไป โดยการทำงานใต้ผิวหนังชั้นลึกเพื่อให้ส่งผลออกมาถึงผิวหนังชั้นนอกจึงทำให้ช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจนและช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ชุ่มชื่นให้กับผิว ยกกระชับผิวที่มีความหย่อนคล้อยให้กลับมากระชับอีกครั้ง ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกบนผิวให้ตื้นขึ้น ปรับผิวกระจ่างใส รูขุมขนกระชับแน่นขึ้น คุณภาพของผิวและความเต่งตึงของใบหน้าในภาพรวมดีขึ้น ปรับให้ผิวที่เคยหลวมจากการสูญเสียคอลลาเจน ให้แน่น อิ่มฟูอีกครั้ง และด้วยความที่ Sculptra ไม่ใช่การฉีดสารเติมเต็มแต่เป็น Collagen Biostimulator จะทำให้ใต้ผิวค่อยๆฟื้นฟูตัวเองและได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากที่สุดโดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรืออาการข้างเคียงใดๆในการรักษา

 

Sculptra มีคอลลาเจนที่สำคัญต่อร่างกายอย่างไร?

คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่จัดเป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนังมนุษย์และมีสัดส่วนในผิวหนังของคนเราสูงถึง 80% – 90% ไม่เพียงเท่านั้นคอลลาเจนยังเป็นส่วนของโครงสร้างสำคัญต่างๆที่ประกอบในร่างกาย อาทิ ในกระดูก ในกล้ามเนื้อ เป็นส่วนประกอบของเล็บ เส้นเอ็น รวมทั้งข้อต่อของคนเราด้วย

ร่างกายของมนุษย์ประกอบไปด้วยคอลลาเจนรวมกันหลายชนิดแต่จะมี 5 ชนิดที่สามารถพบได้บ่อยในร่างกายคือ

  • Collagen Type 1 คอลลาเจนไทป์นี้เป็นคอลลาเจนที่มีความยืดหยุ่นรวมทั้งมีความแข็งแรงสูง สามารถพบได้บริเวณผิวหนัง และเส้นเอ็น
  • Collagen Type 2 คอลลาเจนไทป์นี้เป็นคอลลาเจนที่มีเส้นใยหลวมกว่าคอลลาเจนไทป์ 1 สามารถพบได้บริเวณกระดูก และข้อต่อ
  • Collagen Type 3 คอลลาเจนไทป์นี้เป็นคอลลาเจนที่มีความแข็งแรงต่ำเมื่อเทียบกับคอลลาเจนไทป์ 1 สามารถพบได้ที่บริเวณผิวหนัง และหลอดเลือด
  • Collagen Type 4 คอลลาเจนไทป์นี้เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะเฉพาะตัวมาก สามารถพบได้ตามเนื้อเยื่อที่เกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อ ไขมัน และเส้นใยฝอยของเยื่อบุผิว
  • Collagen Type 5 คอลลาเจนไทป์นี้เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะคล้ายกันกับคอลลาเจนไทป์ 1 สามารถพบได้ตามเส้นผม เนื้อเยื่อของทารก รวมไปจนถึงผิวของเซลล์
messageImage_1726133766366

Sculptra มีความสำคัญอย่างไรต่อเซลล์ Fibroblast

เซลล์ Fibroblast คือเซลล์ที่ก่อให้เกิดคอลลาเจนและอิลาสติน ที่เรารู้จักกัน โดยคอลลาเจนและอิลาสตินนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ภายใต้ผิวหนังของคนเราและเป็นตัวทำหน้าที่สร้าง และรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว

รวมทั้งยังทำหน้าที่ในการทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรง สร้างความยืดหยุ่น เด้งกระชับ แต่เมื่อคนเรามีอายุที่มากขึ้นโดยปกติประมาณ 25-30 ปี เซลล์ Fibroblast จะค่อยๆลดลงเรื่อยๆตามวัย ส่งผลให้คอลลาเจน และอิลาสตินไม่เกิดการสร้างขึ้นใหม่ จึงทำให้ผิวของคนเราเกิดความหย่อนคล้อยลงเรื่อยๆเมื่อมีอายุที่มากขึ้น

 

กระบวนการทำงานของ Sculptra หลังฉีดลงสู่ผิว?

หลังฉีด Sculptra Collagen Biostimulator ลงสู้ผิวแล้วผิวจะมีความเติมเต็ม กระชับ เด้งฟูขึ้นทันทีหลังจากฉีด อันเนื่องมาจาก Sculptra เป็นโปรแกรมที่จะต้องทำการผสมกับ Sterile water ก่อนแล้วค่อยนำมาฉีดเข้าที่บริเวณผิวหนังจึงทำให้ผิวหนังเติมเต็มขึ้นจากการฉีดน้ำเข้าไปที่ผิวหนัง หลังจากนั้นประมาณ 2-3 วันจะค่อยๆยุบลง และจะกลับมายุบ ไม่เต่งตึงเหมือนเดิมเนื่องจากร่างกายได้ทำการดูดซึม Sterile water ที่ฉีดเข้าไปจนหมด

โดยระหว่างนั้น Sculptra ก็จะกระจายตัวไปจนทั่วผิวหนัง หลังจากนั้น Sculptra ก็จะเริ่มทำงานกับผิวหนังโดยหลังจากที่ฉีด Sculptra และตัวยาเริ่มกระจายตัวไปสู่ส่วนต่างๆของผิวหนังอนุภาคของ Sculptra จะเริ่มทำงานโดยการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วยวิธีการคือการดึงเซลล์ Macrophages เพื่อมาล้อมรอบตัวอนุภาคของ Sculptra ให้มากที่สุดจากนั้นจะเริ่มทำการส่งสัญญาณให้กับ Fibroblast ที่อยู่ใต้ผิวหนังเพื่อให้เกิดการรวมตัวที่มากขึ้น ทำให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้น หนาแน่นขึ้นยกกระชับมากขึ้นและเมื่อเวลาผ่านไป Sculptra จะค่อยๆเกิดการสลายออกไปเองตามกระบวนการของร่างกาย แต่จะเหลือคอลลาเจนและอิลาสตินที่ถูกสร้างในขณะที่ Sculptra ยังอยู่ในร่างกายเอาไว้แทนที่ ทำให้ผิวที่เคยหลวมเกิดการกระชับแน่นขึ้น และช่วยในการยกกระชับใบหน้า และฟื้นฟูคุณภาพผิวได้ยาวนานถึง 25 เดือนซึ่งยังไม่มี Collagen Biostimulator ตัวใดสามารถทำได้

ความเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้า และผิวหนังเมื่อมีอายุมากขึ้น

เมื่อคนเรามีอายุและวัยที่เพิ่มมากขึ้น โครงสร้างและกระดูกบนใบหน้าจะมีความเปลี่ยนแปลงเนื่องจากกระดูกของเราจะเกิดการย่อยสลาย ( Volume loss ) และกร่อนลงไปตามกาลเวลา จึงทำให้ใบหน้ามีความเปลี่ยนแปลงจากการสูญเสียปริมาตรของกระดูก และเมื่อกระดูกมีการผุกร่อนลงไปแล้วใบหน้าภาพรวมจะดูโทรมขึ้นเนื่องจากโครงหน้าจะเริ่มตอบ ไม่สดใสเหมือนตอนกระดูกยังไม่ผุกร่อนนั่นเอง

ไม่เพียงเท่านั้น คอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนังของคนเรา ก็จะสร้างได้น้อยลงเรื่อยๆไปจนถึงหยุดสร้าง และสูญเสียออกไปเรื่อยๆ โดยคนเราจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนในผิวไปทุกๆปีละ 1-2 % เมื่ออายุเราเข้าสู่วัย 20 ปี คอลลาเจนในผิวหนังจะเริ่มสร้างได้น้อยลง และจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนไปเมื่อเข้าสู่วัย 45 ปีในปริมาณ 1- 2% ซึ่งภาพรวมหลังจากที่ค่อยๆสูญเสียกระดูกอันเป็นโครงสร้างของใบหน้ารวมทั้งสูญเสียคอลลาเจนไป ก็จะดูหย่อนคล้อย จากที่เคยตึง กระชับก็จะไม่เหมือนผิวในช่วงวัยก่อนหน้าอีกแล้ว

messageImage_1726133895244
messageImage_1726133885097
 

อะไรคือความพิเศษของ Sculptra ?

Sculptra เป็น Original Collagen Biostimulator ที่สามารถกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวโดยเป็นคอลลาเจนตามธรรมชาติได้ สูงถึง 66.5% โดยเป็นคอลลาเจน type1 ที่ช่วยในการสร้างความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้กับผิว ได้หลังจากฉีด Sculptra ไป 3 เดือนโดยประมาณ ซึ่งคอลลาเจนที่ได้จะเป็นคอลลาเจนที่เป็นคอลลาเจนที่ผลิตจากผิวหนังของเราเองไม่ก่อให้เกิดอันตราย

ในการฉีด Sculptra ในแต่ละครั้งจะต้องใช้ปริมาณยาเท่าไร?

จากการทำการวิจัยเกี่ยวกับ Sculptra Collagen Biostimulator โดยเน้นการทำการทดลองจากคนจริงและมีกลุ่มตัวอย่างในจำนวนที่สามารถทำการคาดคะเนได้แล้ว แพทย์แนะนำให้ใช้ Sculptra ในช่วงอายุคนไข้ 10 ปี ต่อ Sculptra 1 ขวด โดยสามารถปรับเปลี่ยนตามความหลวมของผิวหนังแต่ละคนได้ ทั้งนี้ให้ปรึกษาแพทย์ถึงจำนวนตัวยาที่ใช้ในการรักษาก่อนเข้ารับบริการ

Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะกับใคร ?

  1. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
  2. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยบนใบหน้าทั้งริ้วรอยที่เห็นชัดและริ้วรอยที่เห็นไม่ชัด
  3. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยตามวัย
  4. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีอายุมากและร่างกายหยุดการผลิตคอลลาเจนแล้ว
  5. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน
  6. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีผิวที่แข็งแรง
  7. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีผิวที่อ่อนเยาว์
  8. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีคุณภาพผิวที่ดี
  9. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีผิวที่กระชับอิ่มฟู
  10. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานไม่ต้องการฉีดบ่อยๆ

Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับใคร ?

  1. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีประวัติผิวหนังมีการเกิดคีลอยด์หรือมีแผลเป็นนูน
  2. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีประวัติผิวหนังเคยแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis)
  3. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนัง
  4. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีการอักเสบของผิวในบริเวณที่ต้องการทำ
  5. Sculptra เหมาะกับผู้ที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ ให้นมบุตร
 

หลังจากฉีด Sculptra จะมีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างไร?

  1. หลังจากฉีด Sculptra ใบหน้าที่ดูผอมตอบ จากการสูญเสียคอลลาเจน จะถูกเติมเต็มด้วย Collagen Biostimulator ให้ดูอวบอิ่ม มีน้ำมีนวลมากขึ้น
  2. หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยในการเติมร่องลึกและริ้วรอยให้ตื้นขึ้นได้
  3. หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยในการเติมเต็มหน้าแก้มที่แบนทำให้โหนกแก้มดูเล็กใบหน้าโดยรวมดูละมุนลงได้
  4. หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยปรับให้ใบหน้ามีความสวยอิ่มเอิบและดูผ่องเนื่องจากผิวดีมากขึ้น
  5. หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยทำให้รูขุมขนเล็กลง ลดการเกิดการอุดตันอันเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้
  6. หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยปรับสภาพผิวให้ดีมากยิ่งขึ้นได้
  7. หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยให้ผิวที่หลวมมีความหนาแน่นมากขึ้น
  8. หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยประให้ผิวดูสว่างกระจ่างใสมากขึ้น
  9. หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยลดริ้วรอยและจุดด่างดำเล็กๆได้
  10. หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยทำให้ผิวมีคุณภาพที่ดีมากขึ้นได้
  11. หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยให้ใบหน้าสวยอิ่มเอิบมากขึ้น ดูแตกต่างจากเดิม เปลี่ยนตัวเองให้คุณเป็นคนใหม่ได้ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์
 

Sculptra สามารถทำที่บริเวณใดได้บ้าง ?

  1. Sculptra สามารถทำได้ในบริเวณ ขมับ
  2. Sculptra สามารถทำได้ในบริเวณ หน้าแก้ม
  3. Sculptra สามารถทำได้ในบริเวณ แก้มล่าง
  4. Sculptra สามารถทำได้ในบริเวณ แนวกราม

Sculptra ไม่สามารถทำที่บริเวณใดได้บ้าง?

  1. Sculptra ไม่สามารถทำได้ในบริเวณ โซนใต้ตา
  2. Sculptra ไม่สามารถทำได้ในบริเวณ ทีโซน
  3. Sculptra ไม่สามารถทำได้ในบริเวณ ร่องแก้ม
  4. Sculptra ไม่สามารถทำได้ในบริเวณ ร่องน้ำหมาก

 
โดยบริเวณที่กล่าวมาทั้งหมดนับเป็นจุดที่มีความบอบบางสูง อาจทำให้เกิดความอันตรายในการทำได้ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ และเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการรักษา
messageImage_1726133728866

Sculptra ที่บรรจุมาในขวด จะประกอบไปด้วย

  1. อนุภาคของสาร Poly-L-lactic acid (PLLA) ปริมาณ 150 mg โดยเป็นสารที่เป็นส่วนประกอบหลักและไม่ก่อให้เกิดอันตราย
  2. Sodium Carboxymethylcellulose สารให้ความคงตัว ปริมาณ 90 mg โดยเป็นส่วนประกอบที่ส่งผลในการทำละลาย และเมื่อ Sculptra เกิดการละลายแล้ว จะสามารถใช้งานได้ทันที
  3. Mannitol ปริมาณ 127.5 mg เป็นส่วนประกอบที่ทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถมีการบรรจุเป็นแบบสุญญากาศได้
 

จะเห็นผลหลังจากการฉีด Sculptra นานเท่าไร?

หลังจากการฉีด Sculptra Collagen Biostimulator จะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหลังจากการฉีดอย่างต่อเนื่อง โดยจะสามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์เป็นต้นไป และจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนหลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน โดยผิวหนังจะเริ่มสร้างคอลลาเจนไทป์ 1 ได้สูงถึง 66.5%


 

เมื่อเข้ารับการฉีด Sculptra ควรเตรียมตัวอย่างไร ?

  • ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาด้วย Sculptra ไม่ควรฉีดหรือทำการรักษาใบหน้าหรือผิวหน้าด้วยหัตถการประเภทอื่นๆ 2 – 4 สัปดาห์
  • ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาด้วย Sculptra ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด อาทิยาในกลุ่มยาแอสไพริน เป็นระยะเวลาขั้นต่ำ 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันอาการฟกช้ำ
  • ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาด้วย Sculptra ควรงดการรับประทานวิตามินบำรุงที่เป็นสาเหตุทำให้เลือดหยุดไหลยากในตอนฉีด Sculptra อาทิ วิตามินอี น้ำมันตับปลาเป็นต้น แปะก๊วย เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์
  • ผู้มีอาการป่วย หรือมีโรคประจำตัวร้ายแรง ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนเข้าทำการฉีด Sculptra
  • ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาด้วย Sculptra ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระยะเวลา 1-3 วัน
  • ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาด้วย Sculptra ควรดูแลสุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติแข็งแรงดี

ขั้นตอนการฉีด Sculptra

  • ปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์เพื่อประเมินผิวหน้า รวมทั้งสภาพผิวอย่างละเอียดก่อนการทำการฉีด Sculptra
  • ผู้ช่วยแพทย์จะทำความสะอาดผิว เพื่อชะล้างและกำจัดความันรวมทั้งสิ่งสกปรกบนใบหน้า ก่อนการทำการฉีด Sculptra
  • ทายาชาเพื่อลดความเจ็บในระหว่างทำการฉีด Sculptra ทิ้งเอาไว้ 30-40 นาที
  • เช็ดยาชาออกเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำการฉีด Sculptra
  • แพทย์ลงมือทำการฉ๊ด Sculptra โดยการฉีดเข้าสู่ใต้ผิวหนังอย่างแม่นยำเพื่อให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว
  • เช็ดเพื่อห้ามเลือด
  • ประคบเย็นเพื่อให้รอยเข็มจางลง และแปะพลาสเตอร์ปิดรอยเข็ม
 

วิธีการดูแลตัวเองหลังจากฉีด Sculptra เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ?

  • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra ควรนวดให้ครบ Triple 5 คือ นวด 5 วัน 5ครั้ง วันละ 5 นาที ตามคำสั่งของแพทย์เพื่อให้ Sculptra กระจายตัวไปทั่วทั้งใบหน้า
  • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra ควรหลีกเลี่ยงการให้ใบหน้าสัมผัสแสงแดดจัดหรือแสงยูวีเช่นแสงไฟจนกว่าอาการบวมและแดงจากการฉีดจะหายไป
  • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra ไม่ควรเข้ารับการทำหัตถการชนิดอื่นๆ ในระยะเวลา 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้ตัวยา Sculptra ได้ทำงานก่อน
  • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าเนื่องจากใบหน้ายังมีความบวมอยู่
  • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra ควรหลีกเลี่ยงการอบซาวน่า หรือการอบไอน้ำในระยะเวลา 24 ชั่วโมง
  • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra หากมีอาการเจ็บในบริเวณที่ทำสามารถใช้เจลเย็นประคบในบริเวณที่ฉีด Sculptra ได้
 

Triple 5 วิธีการนวดใบหน้าหลังฉีด Sculptra ทั้งหมด 4 ท่า ประกอบด้วย

ท่าที่ 1 ใช้นิ้วโป้งนวดไปที่บริเวณขมับด้านซ้าย และด้านขวา จากนั้น ให้กำมือและค่อย ใช้กำปั้น นวดคลึง จากเลื่อนจากหน้าผากออกไปทางขมับด้านซ้ายและขวาพร้อมๆกัน

ท่าที่ 2 ให้ยกนิ้วโป้งขึ้น แล้ววางนิ้วโป้งให้แนบกับแก้มด้านซ้ายและขวา จากนั้นค่อยๆเลื่อนนิ้วโป้ง ให้ออกไปบริเวณข้างแก้มพร้อมกันทั้งซ้ายและขวาโดยใช้วิธีกดแล้วค่อยๆ เลื่อนออกอย่างช้าๆ และเบามือ

ท่าที่ 3 ให้กำมือ แล้วใช้ในส่วนอุ้งมือกดเข้าที่บริเวณข้างแก้ม จากนั้นค่อยๆ นวดโดยการเริ่มไล่จากด้านล่างใบหน้า ขึ้นไปด้านบนใบหน้า ให้ถึงบริเวณโหนกแก้ม ให้ทำวนหลายๆครั้ง ซึ่งวิธีนวดนี้จัดเป็นวิธีการยกกระชับผิวหน้า

ท่าที่ 4 ให้ยกนิ้วโป้งเหมือนกันกับท่าที่ 2 แล้วนำนิ้วมาจรดที่บริเวณคางจากนั้นจึงค่อยๆ เลื่อนนิ้วโป้งไล่ขึ้นไปตามแนวสันกราม

โดยการนวด Triple 5 แนะนำให้นวด 5 วันหลังจากการฉีด Sculptra วันละ 5 ครั้ง และครั้งละ 5 นาที เพื่อให้ผลลัพธ์ในการฉีด Sculptra เป็นไปอย่างดีที่สุด


 

Sculptra ต้องทำกี่ครั้งเพื่อการรักษาที่ดีและเห็นผลที่สุด

Sculptra จำนวน 2 – 3 ครั้ง และเมื่อครบกำหนดควรมาทำเพิ่มเพื่อผลลัพธ์อันเป็นที่น่าพึงพอใจและเพื่อคงสภาพผลลัพธ์ของผิวให้ดีไปโดยตลอด

Sculptra ควรเว้นระยะเวลาการฉีดนานเท่าไร ?

ในการฉีด Sculptra ควรเว้นระยะห่างในการฉีดประมาณ 4 – 6 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์และประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

ผลข้างเคียงของ Sculptra มีอะไรบ้าง?

หลังจากฉีด Sculptra ในช่วง 1-2 วันแรก อาจมีอาการปวด บวมหรือแดงที่ผิว อาการเหล่านี้จะสามารถหายไปเองได้ตามธรรมชาติในระยะ 4-5 วัน โดยไม่ต้องกังวล

หลังจากฉีด Sculptra อาจมีการเจอตุ่มนูน บวมหรือก้อนเล็กๆ ในบริเวณใต้ผิวหนังที่ฉีด ซึ่งเป็นอาการปกติหลังการทำสามารถหายได้เองโดยไม่ต้องกังวล หากมีความกังวลสามารถแจ้งโที่เข้ารับบริการเพื่อให้แพทย์ทำการนวด เพื่อการกระจายตัวของสาร PLLA ที่มากขึ้นและไม่เกาะตัวกันเป็นก้อน

 

Sculptra สามารถทำได้ตอนอายุเท่าไร?

โดยปกติคอลลาเจนของคนเราจะลดลงตั้งแต่มีอายุ 20 ปี เป็นต้นไปและจะเริ่มสร้างคอลลาเจนได้ช้าลงตามลำดับดังนั้นเมื่อคอลลาเจนลดลง จึงสามารถทำการสร้างงคอลลาเจนเพื่อทดแทนคอลลาเจนที่ลดลงได้ในทันทีเพื่อให้ผิวหนังยังคงสภาพที่ดีอยู่และเพื่อไม่ให้ความชุ่มชื้น ยืดหยุ่นบนผิวลดลง ทั้งนี้ยังเป็นการยืดอายุของผิว รวมทั้งยังช่วยคงสภาพความแน่นกระชับของผิวให้มีริ้วรอยช้าลงกว่าผู้ที่เริ่มฉีด Sculptra ในอายุที่มากอีกด้วย

Sculptra สามารถทำร่วมกับโปรแกรมประเภทฉีดอื่นๆได้หรือไม่ ?

Sculptra เป็นโปรแกรมฉีดประเภท Biostimulator ให้เพื่อฉีดกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวโดยมีวัตถุประสงค์ต่างจากโปรแกรมฉีดชนิดอื่นๆที่อาจเป็นการฉีดเพื่อเติมเต็มอย่างฟิลเลอร์หรือลดขนาดกล้ามเนื้อ อย่างฉีดโบ จะเห็นได้ว่าโปรแกรมฉีดแต่ละชนิดจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปอีกทั้งโปรแกรมฉีดแต่ละชนิดยังทำงานคนละชั้นผิวหนังของใบหน้า

จึงสามารถฉีด Sculptra ร่วมกับโปรแกรมฉีดชนิดอื่นๆได้ นับเป็นสิ่งที่ดีอีกด้วยเนื่องจากเป็นการดูแลความงามอย่างทั่วถึงทุกชั้นผิวทั้งนี้ในการทำนัดเพื่อเข้ามาทำทุกโปรแกรมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญถึงลำดับการทำเพื่อให้กระทำทุกโปรแกรมได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

Sculptra เป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเนื่องจากงานผิวหรือ skin quality เป็นสิ่งที่มาแรงมากในช่วงนี้ จึงมีหลากหลายคลินิกเสริมความงามให้ความสนใจ ดังนั้นสิ่งที่ควรให้ความคำนึงถึงก่อนทำการรักษาทุกครั้งคือความน่าเชื่อถือของคลินิกที่ให้บริการ ความได้มาตรฐาน ความสะอาด ชนิดของยา และการการันตีต่างๆ รวมทั้งประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำการดูแล จึงควรศึกษาหาข้อมูลโดยละเอียดทุกครั้งก่อนเข้ารับบริการเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เต็มประสิทธิภาพที่สุดในการรักษา

error: ปรึกษาเราได้ที่ 053 234 657 นะคะ > <